ผู้ติดตาม

วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560



                วรรณคดีเรื่อง เสือโคคำฉันท์



เสือโคคำฉันท์

1. ผู้แต่ง 
         พระมหาราชครู สันนิษฐานว่ามีเชื้อสายพราหมณ์เป็นพระอาจารย์ถวายพระอักษรแด่สมเด็จพระนารายณ์มหาราช อาจดำรงตำแหน่งพระมหาราชครูฝ่ายลูกขุน ณ.ศาลาหลวงหรือพระมหาราช

2. ประวัติความเป็นมา 

  • สันนิษฐานว่าแต่งก่อนสมุทรโฆษคำฉันท์โดยนำเค้าเรื่องมาจากปัญญาชาดก
  • ทำนองแต่ง แต่งด้วยฉันท์และกาพย์แต่มีจำนวนฉันท์และกาพย์น้อยชนิดกว่าสมุทรโฆษคำฉันท์

  เริ่มต้นกล่าวสรรเสริญคุณเทวดา กษัตริย์และพระรัตนตรัยแล้วดำเนินเรื่องว่าเสือแม่ลูกอ่อนและโคนม แม่ลูกอ่อนอยู่ในป่าแห่งหนึ่งวันหนึ่งแม่เสือออกไปหาอาหารลูกโคสงสารจึงบอกแม่ใหนมแก่ลูกเสือลูกเสือและลูกโคจึงเริ่มรักกันอย่างพี่น้องแม่เสือสาบานว่าจะไม่ทำลูกโคแต่แม่เสือไม่รักษาคำสัตย์กินแม่โคเสีย ลูกเสือและลูกโค จึงช่วยกันประหารแม่เสือแล้วชวนกันไปหากินจนพบพระฤาษีพระฤาษีเมตตาชุบให้เป็นคน ลูกเสือเป็นพี่ได้ชื่อว่า พหลวิไชย ลูกโคเป็นน้องชื่อว่าคาวี พระฤาษีอวยพรและมอบพระขรรค์วิเศษให้ ทั้งสองจึงลาฤาษีไปเมืองมคธ 
พระคาวีได้ฆ่ายักษ์ที่คอยทำร้ายชาวเมืองนั้นตายได้นางสุรสุดาราชธิดาท้าวมคธ แต่พระคาวีถวายแด่พระพี่ชาย แล้วออกเดินทางต่อไปต่างฝ่ายต่างเสี่ยงบัวคนละดอกเมื่อไปถึงเมืองร้างเมืองหนึ่งพบกลองใหญ่ตีไม่ดัง ผ่าดูพบ นางจันทราผู้ผมหอมธิดาท้าวมัทธราชและนางแก้วเกษร แห่งรมนคร ได้ทราบความจากนางว่านกอินทรีย์ใหญ่คู่หนึ่งบิน มากินชาวเมืองตลอดจนพ่อแม่ นางรอกชีวิตได้ก็เพราะกลองใบนั้น พระคาวีปราบนกอินทรีด้วยพระขรรค์วิเศษและ ได้นางจันทรเป็นชายา
    วันหนึ่งนางจันทรลงสรงในแม่น้ำ ใส่ผมหอมในอบแล้วลอยน้ำไป ท้าวยศภูมิ ผู้ครองเมืองพันธวิไสยเก็บได้ หลงใหลผมหอมนั้น นางทาสีอาสานำนางมาถวาย โดยออกอุบายลวงถามความลับเกี่ยวกับพระขรรค์จากนางจันทร ครั้นทราบว่าพระคาวีถอดพระชนม์ไว้ในพระขรรค์ จึงนำพระขรรค์ไปเผาไฟ พระคาวีสลบไป แล้วนางทาสีพา นางจันทรไปถวายท้าวยศภูมิ  แต่ไม่อาจเข้าใกล้นางได้เพราะร้อนเป็นไฟ ด้วยอำนาจความภักดีที่มีตอพระคาวีเมื่อพระพหลวิไชยเห็นบัวอธิฐานเ่ยวลงเป็นลางร้ายจึงตามหาร่างพระคาวี และพบพระขรรค์ในกองไฟ มาชำระล้าง
วางบนองค์พระคาวี พระคาวีพื้นขึ้นแล้ว พากันออกตามหานาวจันทรถึงเมืองท้าวยศภูมิ พระพหลวิไชยแปลงเป็น พระฤาษีอาสาชุบท้าวยศภูมิให้เป็นหนุ่มแล้วฆ่าเสียเอาพระคาวีออกมาแทนอ้างว่าชุบตัวเป็นหนุ่มได้สำเร็จ พระคาวีได้ อภิเษกสมรสกับนางจันทรและได้ครองเมืองพันธไสยสืบมา
เสือโคคำฉันท์เป็นหนังสือประเภทฉันท์เรื่องแรกที่จบสมบูรณ์ ชนิดของฉันท์ที่ใช้แต่งไม่มีมากและโคลงไม่เคร่งครัด ตามแผนบังคับ นอกจากนี้มีกาพย์ชนิดต่างๆแต่งอยู่ด้วย ถ้อยคำสำนวนเข้าใจง่ายกว่าสมุทรโฆษคำฉันท์เรื่องนี้ได้ต้นเค้ามาจากปัญญาสชาดกแต่ก็ไม่ได้กล่าวถึงการกลับมาของบุคคลในเรื่องอย่างชาดก ต่อมาในรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องคาวีเรื่งเสือโคคำฉันท์นี้



ที่มา : https://www.dek-d.com/board/view/1564143/

3. จุดมุ่งหมาย


เพื่อริเริ่มแต่งฉันท์เป็นเรื่องยาว และเพื่อเป็นคติสอนใจ




รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


4. เรื่องย่อ

     เสือโคเป็นนิทานพื้นเมืองที่มีการเล่าต่อกันมาช้านาน อันเป็นเรื่องราวระหว่างลูกเสือกับลูกโค ซึ่งต่างมีมิตรไมตรีอันดีต่อกัน ภายหลังฤาษีเสกให้เป็นคนทั้งสองตัว เสือให้เป็นคนชื่อว่า พหลวิชัย อายุมากกว่ามีฐานะเป็นพี่ ส่วยโคให้เป็นคนมีชื่อว่า คาวี มีอายุน้อยกว่ามีฐานะเป็นน้อง จากนั้นลูกเสือกับลูกโคเดินออกมาจากป่า พระฤาษีเห็นเข้าจึงเกิดความสงสารจึงได้ชุบเลี้ยงไว้ วันหนึ่งพระฤาษีถามลูกสัตว์ทั้งสองได้ความว่า วันหนึ่งแม่เสืออกไปล่าเหยื่อ ลูกเสือถูกที้งไว้นานหิวนมมากลูกโคเห็นจึงเกิดความสงสาร ได้บอกให้แม่โคให้นมแก่ลูกเสือด้วย ลูกเสือได้กินนมแม่โคจึงเกิดความรักต่อลูกโคและแม่โค เมื่อแม่เสือกลับมา ลูกเสือได้ขอร้องให้แม่เสือเลิกทำร้ายแม่โคกับลูกโค แม่เสือรับคำแต่ทำไม่ได้ ภายหลังได้กินแม่โค ลูกเสือกับลูกโคไม่พอใจ จึงรวมกันทำร้ายแม่เสือจนตาย จากนั้นก็ชวนกันออกมาจากป่าเดินมาเรื่อยๆ จนพบฤาษี ได้รับการชุบเลี้ยงให้เป็นคน
ต่อมาทั้งสองกราบลาพระฤาษีเพื่อไปยังเมืองจันทบูรนคร คาวีได้เจอกับยักษ์ทำการต่อสู้กัน คาวีฆ่ายักษ์ได้ พระเจ้ามคธผู้ครองเมืองนั้นจึงยกพระธิดาพระนามว่า สุรสุดาเป็นพระชายา แต่คาวีมีความกตัญญูต่อพี่พหลวิชัย จึงกราบทูลให้พระราชทานให้กับพหลวิชัย คาวีจากพหลวิชัยเพื่อเดินทางต่อไปจนถึงเมืองร้างเมืองหนึ่ง มีนามว่า รมยนคร ที่เมืองนี้มีความอดอยากถึงขนาดนกอินทรีต้องจับผู้คนกินเป็นอาหาร คาวีพบกล่องใบใหญ่ใบหนึ่ง เมื่อลองแกะดูก็พบพระธิดาจันทร์หอมผู้เป็นพระธิดาของท้าวมัททราชอยู่ในนั้นคาวีทำการปราบนกอินทรีใหญ่ตายแล้วก็ได้พระธิดาจันทร์เป็นชายาและได้ครองเมืองรมยนคร ต่อมาพระนางจันทร์สุดา สรงน้ำแล้วก็นำเส้นผมใส่ผอบปล่อยให้ลอยน้ำไป กษัตริย์เมืองพัทธพิลัยนามว่าท้าวยศภูมิ เก็บผอบได้แล้วทรงเปิดผอบออกมาก็ปรากฏมีเส้นผมอยู่ในนั้น เส้นผมนั้นเป็นเส้นผมที่หอมมากมีกลิ่นหอมอบอวลพาให้หลงใหล
กษัตริย์เมืองพัทธภูมิทรงใช้ให้นางทาสีไปทำอุบายหลอกถามความลับเกี่ยวกับพระขรรค์จากพระนางจันทร์สุดา ทราบว่าชิวิตของพระคาวีอยู่ในพระขรรค์จึงเอาไปเผาเสีย ทำให้คาวีสิ้นพระชนม์ แล้วนางทาสีก็พานางจันทสุดาไปถวายท้าวยศภูมิ แต่ด้วยอำนาจของความซื่อสัตย์ ความจงรักภัคดีของนางจัทร์สุดาที่มีต่อคาวี จึงทำให้พระวรกายของพระนางจันทร์สุดามีความร้อนดั่งไฟ ท้าวยศภูมิไม่อาจเข้าใกล้ได้เลย ทำให้รอดพ้นจากการล่วงเกินใดๆ
ฝ่ายพหลวิชัยได้ตามหาคาวีจนช่วยแก้ให้ฟื้นคืนชีพได้แล้วพาเข้าเมืองพันธพิสัยเพื่อตามหานางจันทร์สุดาพหลวิชัยปลอมตัวเป็นฤาษี รับอาสาชุบตัวท้าวยศภูมิให้เป็นคนหนุ่มหล่อ ระหว่างทำพิธีอยู่ เมื่อท้าวยศภูมิเผลอก็ผลักท้าวยศภูมิเข้าไปในกองไฟเมื่อฆ่าท้าวยศภูมิสำเร็จแล้วก็ให้คาวีแต่งตัวเป็นกษัตริย์ครองราชย์สมบัติอยู่เมืองพัทธพิสัยร่วมกับ

พระนางจันทร์สุดา

5. ระยะเวลาในการแต่ง

            สันนิษฐานว่า แต่งก่อนสมุทรโฆษคำฉันท์ เพราะแต่งได้จบบริบูรณ์ โดยนำเค้าเรื่องมาจากปัญญาสชาดก ซึ่งภิกษุชาวเชียงใหม่แต่งไว้ประมาณ พ.ศ. 2200 อยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเป็นภาษามคธ มี  50 เรื่อง และเสือโคคำฉันท์ มาจากพหลาคาวีชาดก เป็นเรื่องหนึ่งใน 50 เรื่อง ของปัญญาสชาดก

6. ลักษณะการแต่ง


            แต่งเป็นฉันท์เกือบทั้งหมดประกอบกับกาพย์สุรางคนางค์กับกาพย์ยานี และบทสุดท้าย ๒ บท ที่แต่งเป็นโคลงสี่สุภาพ





ตัวอย่างสำนวนกวี :

ลูกเสือและลูกโคร่วมกันทำร้ายแม่เสือจนสิ้นชีวิต
บัดนั้นลูกพยัคฆ์ ใส่กลทำรัก แม่เข้าไปหา
เคล้าคลึงเคลียชม ตระบัดโกรธา แหงนกัดกรรฐา คอขาดบัดใจ
ลูกโคเข้าขวิด ไส้พุ่งโลหิต เรี่ยรายลามไหล
ด่าวดิ้นท่าวล้ม กลิ้งเกลือกเสือกใน วนาอาไศรย สิ้นหายวายปราณ






ที่มา : พิพัฒน์พล วงษ์วิทย์เสือโคคำฉันท์ (ออนไลน์).จากhttp://my.dek-

d.com/thailith/writer/viewlongc.php?id=905811&chapter=7

7. คุณค่า

1. คุณค่าด้านวรรณคดี
            เสือโคคำฉันท์เป็นวรรณคดีประเภทฉันท์เรื่องแรกที่นำชาดกมาเขียนเรื่องยาว และเขียนได้จบบริบูรณ์ เป็นแบบฉบับของการแต่งฉันท์ในสมัยต่อมา เนื้อเรื่องให้อารมณ์หลากหลาย เช่น รัก โศกเศร้า เพลิดเพลิน ตื่นเต้นและสำนวนโวหารมีความไพเราะ
 2. คุณค่าด้านคติธรรมหรือทางพุทธศาสนา
             เป็นเรื่องที่ให้คติสอนใจหลายประการ เช่น ความเมตตา ความซื่อสัตย์ต่อคำมั่นสัญญา และการที่ไม่ควรไว้ใจอะไรง่ายๆ
3. คุณค่าด้านภาษา
            มีคำโบราณปะปนอยู่เพียงเล็กน้อย บางตอนใช้คำที่มาจาก ภาษาสันสกฤต นอกจากนี้ก็ยังมีคำบาลีและคำแผลงด้วย ถ้อยคำ สำนวน เข้าใจง่าย น่าสนใจ จนต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องคาวีเป็นบทละคร มีเนื้อความต่อจากเรื่องเสือโคคำฉันท์ ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ 4 ตอน เริ่มแต่
ตอนที่ 1 ท้าวสันนุราชหานางผมหอม
ตอนที่ 2 ท้าวสันนุราชชุบตัว
ตอนที่ 3 นางคันธมาลีขึ้นเฝ้า
ตอนที่ 4 คาวีรบกับไชยทัต
            แต่ที่น่าสังเกตสำหรับเสือโคคำฉันท์ คือ เรื่องนี้แม้จะได้ต้นเค้าจากชาดก ซึ่งได้แก่ ปัญญาสชาดกแต่ก็ไม่ได้กล่าวเรื่องการกลับชาติของบุคคลต่างๆ ในเรื่องอย่างชาดกอื่นๆ






ที่มา : http://lit4teachers.blogspot.com/2016/03/blog-post_72.html









                วรรณคดีเรื่อง เสือโคคำฉันท์ เสือโคคำฉันท์ 1. ผู้แต่ง             พระมหาราชครู สันนิษฐานว่ามีเชื้อสายพราหม...